ปกติ Google Maps จะมีการตั้งค่านำทาง Default จากจุด A ไป B เอาไว้เป็นเส้นทางที่เร็วที่สุดคำนวณจากข้อมูลจำพวกสภาพการจราจรต่าง ๆ เพื่อให้ผู้โดยสารถึงที่หมายด้วยเวลาน้อยที่สุด แต่ตอนนี้ทาง Google ได้อัปเดตระบบใหม่ ปรับให้ผู้ใช้งานไปเส้นทางที่ประหยัดน้ำมันที่สุดแทนแล้ว
ก่อนหน้านี้ทาง Google ก็ได้ประกาศอัปเดตใหม่ ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์นำทางในอาคารผ่านระบบ AR หรือการรายงานสถานการณ์ฝุ่นต่าง ๆ ในบางพื้นที่ รวมถึงล่าสุดที่กล่าวไปข้างต้น คือ Google จะปรับอัลกอริทึ่มเส้นทางประหยัดน้ำมันที่สุด ให้เป็นค่าเริ่มต้น (Default) แทนที่เส้นทางที่ไปถึงจุดหมายไวที่สุด
https://www.autoevolution.com/news/google-quietly-releases-a-key-google-maps-feature-for-more-users-159709.html#
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการไปถึงที่หมายให้เร็วกว่าประหยัดน้ำมัน ทาง Google Maps ก็ยังมีทางเลือกให้เราสามารถปิดฟีเจอร์ประหยัดน้ำมัน แลัวกลับไปเปิดอัลกอริทึมที่เน้นความรวดเร็วแบบเดิมได้ แต่ถึงอย่างนั้นการตั้งค่า Default หลังจากได้รับการอัปเดตจะเป็นอัลกอริทึมประหยัดน้ำมันอยู่ดีครับ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการปล่อยอัปเดตมาก็อย่าลืมปิดฟีเจอร์นี้กันด้วยนะครับ
นอกจากอัปเดตเรื่องอัลกอริทึมที่กล่าวไปข้างต้น Google Maps ยังเริ่มพัฒนาระบบการนำทางผ่านขนส่งสาธารณะให้ทำงานดีขึ้นในแอป ซึ่งจากอัปเดตที่ได้รับไปในบางพื้นที่มีผลให้ข้อมูลขนส่งสาธารณะละเอียดกว่าเดิม สรุปก็คือฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานที่นั่งรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าไปไหนมาไหนบ่อย ๆ ได้รับข้อมูลเพิ่ม เช่นเวลาที่รถจะมาถึง ให้เราสามารถรู้เวลา ETA (Estimated Time of Arrival) ได้แม่นยำกว่าเดิมนั่นเอง
https://droidsans.com/google-maps-will-change-default-navigation-algorithm-to-fuel-efficientcy-instead-of-speed/
Google ได้ร่วมทำงานกับบริษัทขนส่งมากมายในเมืองหลัก ๆ ทั่วโลกเพื่อให้ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมือง Lyon และ Lille ในประเทศฝรั่งเศสก็เพิ่งได้รับฟีเจอร์นี้ไปหมาด ๆ แบบนี้ก็ต้องรอดูว่าประเทศไทยจะได้รับอัปเดตนี้เมื่อไหร่ครับ
บริการรับออกแบบและวางระบบเครือข่าย
สำหรับองค์กร สำนักงาน บริษัท
และการบริการหลังการขาย
โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Techknowledge Consulting ที่มีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 15 ปี
โทร 02-513-9415-6
https://news.thaiware.com/20114.html
Comments